ทริพเพิล ไอ แกร่งต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ Logistics and Beyond พากำไร 9 เดือน ปี 66 โต 25.4%

ทริพเพิล ไอ แกร่งต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์ Logistics and Beyond พากำไร 9 เดือน ปี 66 โต 25.4%

พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุน มั่นใจกำไรรวมทั้งปีโตเกิน 25%

 

บมจ. ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) ฝ่าทุกปัจจัยผันผวนทางเศรษฐกิจ  โชว์ผลประกอบการแข็งแกร่งต่อเนื่อง         รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 ทำกำไรสุทธิไปแล้ว 462 ล้านบาท โตกว่า 9เดือนแรกของปีที่แล้ว 25.4 %  ล่าสุดกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 แตะ 160.3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตอย่างมั่นคงตลอด 11 ไตรมาส สำหรับ 3 เดือนสุดท้ายของปีแนวโน้มบวกต่อ จากสัญญาณฟื้นตัวของการขนส่งระหว่างประเทศ ค่าระวางเริ่มขยับตัวขึ้นเนื่องจากไฮซีซั่นท่องเที่ยวและขนส่ง พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุน มั่นใจกำไรปี 2566 โตเกิน 25% 

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า                    ผลประกอบการในไตรมาส 3/2566 ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 160.3ล้านบาท ซึ่งรวม 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัททำกำไรสุทธิได้ 462 ล้านบาท เติบโตกว่า 9 เดือนแรกของปีที่แล้วราว 25.4 %  ซึ่งสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่ยังคงชะลอตัวทั่วโลก รวมถึงค่าระวางที่ตกต่ำ

ผลกำไรของบริษัทยังคงเติบโตท่ามกลางปัจจัยผันผวนและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงตลอด 11ไตรมาสที่ผ่านมา  ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จตามกลยุทธ์ Logistics and Beyond ที่เราวาง   เอาไว้ นั่นก็คือการมุ่งเน้นขยายบริการและลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร ก้าวข้ามทุกขีดจำกัด มีความหลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค เพื่อเป็นการขยายโอกาส ต่อยอดธุรกิจเดิม สร้างพลังของการ Synergy   กับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทำให้เราสามารถกระจายความเสี่ยงโดยไม่ได้พึ่งพารายได้จากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นหลัก รวมถึงลดการพึ่งพิงจากค่าระวาง ซึ่งในไตรมาส 3/2566 แม้ค่าระวางทั้งทางเรือและอากาศยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง        จากช่วงก่อนหน้า แต่บริษัทมีการทำกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำแนวทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” นายทิพย์เผย 

สำหรับการคาดการณ์ใน 3 เดือนสุดท้ายของปี 2566 นายทิพย์มั่นใจว่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากช่วง      ไตรมาสสุดท้ายของปีถือเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและขนส่ง ปริมาณนักท่องเที่ยวและปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก ทั้งยังส่งผลให้ค่าระวางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางอากาศและทางทะเล         มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกแก่กลุ่มธุรกิจของบริษัท และจากผลกำไร 9เดือนแรกของปีที่ทำได้ ทำให้มีความมั่นใจ   ว่ากำไรสุทธิของบริษัทในปี 2566 จะโตกว่าปี 2565ไม่ต่ำกว่า 25% 

ล่าสุดบริษัทได้เพิ่มมิติของการให้บริการด้วยการร่วมลงทุนในบริการขนส่งทางอากาศแบบเร่งด่วนที่มีชื่อว่า      AZIA 24 โดยมีเครือข่ายในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเชื่อมโยงกับเครือข่ายในยุโรปและอเมริกา ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ Logistics and Beyond  และสำหรับหนึ่งในบริษัทร่วมทุนที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่าง ANI ยังคงมีกำหนดการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 4/2566 เช่นเดิม ซึ่ง ANI ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการเดินตามแผนเพื่อก้าวสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน